วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทริป อ.จิ๋ว 4-12 ก.ค.2552

4 ก.ค.2552 (วันที่ 1)
เริ่มต้นการเดินทางสุดทรหด 9 วัน 8 คืน ออกจากคณะ ด้วยรถน้าลำดวน ไม่รู้ว่าจากลาดกระบังทำไมถึงโผล่มาอยุธยาได้อย่างรวดเร็ว กินข้าวเช้าที่ปั๊มน้ำมัน เดินเล่นซื้อขนมขึ้นรถ หลังจากนั้นก็หลับต่อไป ตื่นขึ้นมาอีกทีอยู่ที่ จังหวัดสระบุรี

เป็นบ้านไปเรือนไทย ร่มรื่นสวยงาม ของอ.ทรงชัย ฝั่งแรกที่ไป เป็นบ้านที่ดำรงเอกลักษณ์ละความเป็นอยู่ของไทย ด้านหน้าเป็นลานดินโปร่งโล่ง ถูกแวดล้อมด้วยไม้นานาพันธุ์ นำภูมิปัญญาเดิมของบรรพบุรุษมาใช้ ด้านในมีเรือน 3 เรือนล้อมรอบบ่อน้ำขนาดใหญ่ บรรยากาศดีมาก....สวยงาม....เป็นเรือนไม้จริง เลี้ยง นก หมา ไก่ หลายชนิด อ.เล่าว่าเหตุผลที่ย้อนกลับมาศึกษาและอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยเอาไว้นั้นเนื่องจาก ภูมิปัญญาที่มีอยู่ของเล่านั้น ผ่านระยะเวลามายาวนานและสั่งสมความรู้และถูกปรับปรุงให้เข้ากับชีวิตความเป็นอยู่ของไทย จากรุ่นสู่รุ่น
หลังจากที่สัมผัสแล้วก็รู้สึกว่า Space ของไทยนั้นไม่ได้ดูน่าเบื่อหน่ายไปตามกาลเวลาเหมือนที่บางครั้งเราคิดว่า อาคารนั้นดูโบราณไม่ทันสมัย ความรู้สึกในการรับรู้ของ space ที่สัมผัสได้นั้นสวยงามมาก เมื่อได้เข้าไปใช้ก็รู้สึกว่าน่าอยู่ ขนาดต่างๆความกว้างความสูงพอเหมาะกับสัดส่วนของคนไทย ทำให้เรือนต่างๆแสดงถึงความเป็นที่อยู่อาศัยแบบพอเพียง ไม่โอ่อ่า ชายคาไม่สูง เย็นสบาย พื้นไม้ที่เดินแล้วให้ความรู้สึกไม่แข็ง ความสวยงามของการ แสดงโครงสร้างหลังคา ไม่มีผ้า ทำให้อาคารดูโล่งโปร่ง ข้ามมาอีกฝั่งหนึ่ง เป็นพิพิธภัณฑ์เรือของแม่น้ำป่าสัก
และเราก็ได้นั่งกินข้าวกันที่นี่ซึ่งที่บริเวณนี้ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำป่าสัก มีแพด้านล่างเป็นเรือนเครื่องผูก ส่วนตัวเรือนด้านบนนั้นเป็นเรือนไม้จริงที่สร้างอยู่บนเนินที่มีความลาดชันสูงวางให้ลดหลั่นไล่ระดับไป ซึ่งนอกจากที่เราจะได้ความรู้เรื่องสถาปัตยกรรมแล้ว เรายังได้ความรู้ในด้านศิลปวัฒนธรรมอีกด้วย เนื่องจากว่าหลังจากที่เรากินข้าวกันเสร็จก็มีน้องๆ ที่เรียนการแสดงอยู่ที่ศูนย์วัฒนธรรมนี้มาแสดงให้ดู จึงได้ดูการฟ้อนแบบนกยูงรำแพนซึ่งก็จำชื่อไม่ได้ดีนัก แต่ว่าเป็นการแสดงที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทำให้เกิดความประทับใจเป็นอย่างมาก หลังจากทู่การแสดงจบเราก็ออกเดินทางกันต่อไปยัง จังหวัดกำแพงเพชร
วัดพระนอนกำแพงเพชร เป็นวัดที่สร้างด้วยศิลาแลงและหลังคาที่ทำด้วยไม้ ซึ่งตอนนี้ส่วนที่เหลืออยู่นั้นก็มีเพียงศิลาแลง นอกจากความงามทางด้านสถาปัตยกรรมแล้วยังแสดงถึงภูมิปัญญาทางด้านการสร้างสภาพแวดล้อมของอาคารให้เข้ากับพื้นที่โดยรอบที่อาจเป็นเพราะผ่านเวลามานาน ทุ่งหญ้าสีเขียวๆที่ตัดกับสีของศิลาแลง ต่อจากนั้นก็เดินไปชมพระทั้ง 4 อิริยาบถ คือ ปรางค์สมาธิ ปรางค์นอน ปรางค์ยืน และปรางค์ลีลา หลังจากนั้นก็ไปกินข้าวกันที่ตลาดโต้รุ่ง ก่อนจะไปที่พักที่ลำปางงงง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น