วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทริป อ.จิ๋ว 4-12 ก.ค.2552


6 ก.ค.2552 (วันที่ 3)
เช้าวันที่สอง ยังคงอยู่ที่ลำปาง ยังคงกินข้าวซอยที่ร้านโอมาเช่นเดิม คราวนี้แก้ตัวด้วยการใส่พริกน้อยๆ หลังจากนั้นก็ไปซื้อข้าวเหนียวหมูทอดที่ร้านป้าร้านเดียวกันกับเมื่อวาน เตรียมเป็นเสบียงสำหรับตอนกลางวัน แล้วก็ขึ้นรถ พอถึงที่อ.จิ๋วก็ได้เรียกไปนั่งฟัง ซึ่งอาจารย์ก็ได้พูดสรุปเรื่องเมื่อวาน เรื่องการใช้ความสามารถของช่าง พัฒนาจากของเดิมขึ้นมาใหม่ เนื่องจากว่าคุณค่าของสิ่งใหม่ๆนั้นยังไม่ได้รับการกลั่งกรองมากพอ โดยใช้ความรู้ที่ได้จากภูมิปัญญาเดิม วัดลำปางหลวงใช้ลักษณะความสัมพันธ์ของ พื้นที่ ความงามที่ไม่ซับซ้อนเข้าใจคุณค่าของที่ว่าง ต่างจากวัดพระแก้วซึ่งเน้นความสำคัญของ แมส โดยพื้นที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเท่าที่ควร วัดโปงยางคก ใช้ลักษณะของงานสมัยใหม่เข้ามาโดยการเทกรวดแทนลานทราย ซึ่งมีความสวยงามแต่ลำบากต่อการใช้งานหากใช้งานตามรูปแบบเดิม คือเมื่อเดินเท้าเปล่าจะเจ็บ หากเป็นลานทรายเอเดินจะไม่เจ็บ หญ้าไม่ขึ้นรักษาความสะอาดง่าย ให้ความสำคัญกับ space ที่มีความสัมพันธ์กัน บ้านที่หยุดสองข้างทางนั้นปรับปรุงเทคนิคเดิมที่เกิดปัญหาโดยใช้ไม้ บานเลื่อนบานพับ คือเป็นการนำเอาวัสดุหรือการก่อสร้างแบบใหม่เข้ามา เปรียบเสมือนภาษาฝรั่งแต่มีความเป็นพื้นเมืองเหมือนเดิม
วันนี้ฝนตกอีกแล้ว เดินดูหมู่บ้านพื้นถิ่น ซึ่งหมู่บ้านเหล่านี้นั้นมีความเป็นอยู่ที่มีชีวิต บ้านแต่ละหลังนั้นผ่านการปรับปรุงความรู้ทางภูมิปัญญาเดิมให้เข้ากับสมัย จากรุ่นสู่รุ่น ลานดิน หน้าบ้าน พืชพรรณไม้ หลากหลายชนิดที่เลือกมาปลูก ถูกคัดสรรมาอย่างดี การเชื่อต่อของ Space บ้านแต่ละหลัง โดยไม่จำเป็นต้องมีรั้วเหมือนกับบ้านจัดสรรในปัจจุบัน แต่ก็สามารถแบ่งแยกอาณาบริเวณกันได้ เมื่อเดินลึกเข้าไปข้างใน หมู่บ้านที่มีบ้านต่างๆอยู่ ก็จะได้พบกับ นาขั้นไปบันไดที่ สวยมาก....สวยมากจริงๆ ซึ่งทุกลักทุเลกันมากกว่าที่จะเก็บภาพได้แต่ละภาพ เนื่องจากว่าฝนก็ตก ต้องถือร่ม ถือกล้อง ท้องฟ้าก็อึมครึม วัดแสงลำบาก แต่ทุกคนก็ยังจะพยายามต่อไปอย่างทุกลักทุเลเพื่อที่จะได้เก็บรูปกลับมา ได้เดินลงไปในทุ่งนา เจอลุงชาวนาใจดี ซึ่งนานี้ก็ดูมีเทคโนโลยีเข้าใช้ในการทำมากพอสมควร ก็ไม่รู้ว่าวันนี้ที่ฝนตกลุงๆ เขาจะรู้สึกดีกว่าวันแดดออกหรือเปล่า เพราะทำงานวันแดดออกคงจะร้อนน่าดู จากหมู่บ้านที่ดูไม่น่าจะเสียเวลาในการดูมากนัก กลับกินเวลาไปกว่าครึ่งวัน
เดินทางต่อไปยังวัดปลายนา ฟังพระเทศน์ในแบบล้านนา ซึ่งก็ไม่เคยได้ฟังมาก่อน แล้วต่อด้วยการเดินดูหมู่บ้าน ซึ่หมู่บ้านนี้ได้รับางวัลจากการประกวดหมู่บ้านน่าอยู่ เจอบ้านคุณตาคุณยายที่นั่งอยู่บแคร่ โดย Space ที่เชื่อมต่อกันกับ เพื่อนบ้าน ทำให้อาณาบริเวณที่ไม่ใหญ่มากนั้น ดูใหญ่ขึ้นมาได้ แล้วเมื่อเดินออกไปด้านนอก ก็มีทุ่งนาอีกทุ่งนึง ไม่รู้ว่าเป็นอะไรจะต้องเดินลงไปลุยทุกครั้ง หลังจากขึ้นมาจากทุ่งนาก็มาถ่ายรูปกันกับเพื่อนๆ ซึ่งมีรูปที่อ.ไก่ ถ่ายกับแยมด้วย ฮ่าๆๆๆ หลังจากนั้นก็เดินไปล้างเท้าล้างตัวที่เลอะโคลนจากการเดินลุยท้องนา แล้วก็เดินหลุดออกจากกลุ่ม เดินหลงอยู่นานก็ไปเจอเพื่อนอยู่ที่บ้าน อบต.ซึ่ง มีเล้าหมูอยู่ด้วย บ้านแต่ละหลังใจดีมาก เอาน้ำมาให้ดื่มด้วย...สดชื่นนนนน บ้านแต่ละหลังดูอบอุ่นสวยงาม...
ออกจากหมู่บ้านขึ้นรถ ทางผ่านไปแวะซื้อลำไยบริเวณ เพิงที่มีวัว ขอบอกว่าเพิงนี้ไม่ธรรมดา สวยมากกกก เห็นแล้วแทบกรี๊ด เชื่อม Space การลดละดับ ความโปร่งทึบ ของพื้นที่ โดยส่วนตัวชอบมาก หลังจากไปดูหลายๆที่มาในไม่กี่วันนี้ ก็เริ่มรู้สึกว่า บางครั้งชาวบ้านกลับมีความรู้สึก เข้าถึง Space มากกว่าสถาปนิกอีก ฮ่าๆๆ เมื่อดูเสร็จก็กลับไปขึ้นรถ ดู เรือนเครื่องผูก ที่คุณน้าเจ้าของบ้านใจดีมากกก เอาเม็ดขนุนต้มมาให้กิน แล้วยังแถมด้วยขนุนที่อร่อยมากอีก ซึ่งเขาเล่าว่าสร้างบ้านด้วยตัวเองทั้งหลัง ซึ่งเสร็จภายในสี่ถึงห้าวันเอง สุดยอดดด ขอยอมรับ ณ ที่นี้ว่า ต่อให้ให้เวลาข้าพเจ้าเป็นเดือนก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ ปกติรู้จักแค่โครงสร้าง UHU กำลังเดินดูบ้านเพลินๆ ก็เกิดเรื่อง คือ พี่ปริญญาโท โดนรถจักรยานยนต์ ชนเข้า เห็นขณะที่ชนแต่เห็นผ่านพุ่มไม้ ยังดีที่ทั้งพี่ทั้งคนขับไม่เป็นอะไรมาก ก็ไม่อะไรแล้วก็ถ่ายรูปต่อไป
ที่สุดท้ายของวันนี้ คือวัดข่วงกอม วัดนี้ถูกออกแบบและสร้างขึ้นโดยสถาปนิกซึ่งเลียนแบบจากของเดิม ทั้งเรื่องแนวคิดสัดส่วน ทุกอย่างหลังจากนั้น ก็เดินไปถ่ายภาพบริเวณบ้านที่อยู่ใกล้วัด แล้วก็เดินลุดลงไปทุ่งนาอีกที่ ซึ่งเดินลงไปลำบากมาก ดินเหลวเละ ลื่น ไม่มีที่จับ ไหนจะต้องพยุงกล้องอีก แต่ก็คุ้มค่ากับการเดินลงไป สะพานที่ใช้เดินข้ามน้ำน่ากลัวจะพังมาก หลังจากรับน้ำหนักคนอย่างเราไป ฮ่าๆ เสร็จแล้วก็เดินกลับมาที่เดิม ไปล้างเท้าในลำธาร ซึ่งทุกคนก็เอี้ยวตัวกันล้างสุดชีวิต ห้อยโหนกันกลัวตกน้ำ หารู้กันไหมว่า น้ำตื้นมาก กว่าจะรู้ว่าน้ำตื้น ก็สายเสียแล้ว เสร็จแล้วก็ไปนั่งในวิหาร ฟังอ.จิ๋วคุยกับพระ เสร็จแล้วก็กลับที่พัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น